ข่าวประชาสัมพันธ์

วิสัยทัศน์ ภิวัฒน์ไทย นศ.ภาษาไทย คว้าชัยปากกาทอง

วิสัยทัศน์ ภิวัฒน์ไทย นศ.ภาษาไทย คว้าชัยปากกาทอง

ศูนย์สังคีตศิลป์ ธนาคารกรุงเทพ จัดประกวดผลงานบทประพันธ์ร้อยกรองสำหรับนิสิต นักศึกษา ระดับปริญญาตรีทั่วประเทศ ในโครงการสร้างสรรค์วรรณศิลป์ “กวีปากกาทอง” โดยคุณเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ กวีซีไรต์ ศิลปินแห่งชาติ และที่ปรึกษาศูนย์สังคีตศิลป์ เป็นผู้พิจารณาตัดสิน
กติกาในการประกวด ๑. เป็นนักศึกษาที่กำลังศึกษาระดับปริญญาตรีในมหาวิทยาลัยทุกแห่งในประเทศไทย
๒. รับผลงานบทประพันธ์ร้อยกรอง รายละเอียด ดังนี้ –ประเภทกลอน รับผลงานประเภท กลอนสุภาพ
- ประเภทกาพย์รับผลงานประเภท กาพย์ยานี, กาพย์ฉบัง และ กาพย์สุรางคนางค์ - ประเภทฉันท์รับผลงานประเภท อินทรวิเชียรฉันท์ และ วสันตดิลก -ประเภทโคลงรับผลงานประเภท โคลงสี่สุภาพโดยบทประพันธ์ทุกประเภท ต้องไม่ต่ำกว่า ๕บท แต่ไม่เกิน ๑๐บท ๓. หัวข้อในการประกวดคือ “วิสัยทัศน์ ภิวัฒน์ไทย” ๔. ผลงานที่ส่งเข้าร่วมโครงการต้องไม่เคยเผยแพร่ที่ใดมาก่อน
ในการประกวดครั้งนี้นายวรพงศ์ คุยบุตร นักศึกษาคณะมนุษยศาสตร์ฯ สาขาวิชาภาษาไทย ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภาคตะวันออกเฉียงเหนือจากผลงานบทประพันธ์ประเภทกลอนสุภาพพร้อมโล่รางวัลและปากกาทอง โดยจะเดินทางเข้ารับรางวัลในวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๙ ณ มหาวิทยาลัยมหาสารคาม
นายวรพงศ์ คุยบุตร กล่าวถึงความรู้สึกที่ได้รับรางวัลและการพัฒนาตนเองว่า “รู้สึกภาคภูมิใจ ที่ได้สร้างชื่อเสียงในนามสาขาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ขอบพระคุณอาจารย์มารศรี สอทิพย์ ที่แนะนำให้ส่งผลงานเข้าร่วมการประกวด และขอบพระคุณอาจารย์แก้วตา จันทรานุสรณ์ ที่ให้คำแนะนำเพื่อเติมเต็มบทประพันธ์ให้งดงาม การอ่าน การเรียนรู้ทำให้เกิดความซาบซึ้ง จึงเป็นส่วนหนึ่งของแรงบันดาลใจให้ฝึกเขียน รางวัลไม่ใช่สิ่งการันตีความสามารถ แต่เป็นเสียงกระซิบว่าความพยายามมีความหมายเสมอ”

ผลงานการประพันธ์
หัวข้อ : วิสัยทัศน์ วิวัฒน์ไทย
“ต้นเก่า...กาลใหม่ วิวัฒน์ไทย...วิสัยทัศน์”

๑.ปลิดใบคว้างร่อนกลางฟ้ามายังพื้น ต้นสะอื้นขื่นขมระทมหนัก
ก้านกิ่งช่องอประหลาดเพราะขาดรัก เราพำนักและทำลาย ไม้...ก้าน...ใบ

๒.เรามุ่งหมายได้ “ผล” จนลืมนึก ความรู้สึก ลึก..ลึก หมองหม่นไหม้
กร่อนเกาะกุมรุมทำร้ายอยู่ภายใน ต้นชื่อ “ชาติ” จึงไร้ผลจนวันนี้

๓.คล้ายนิทานกาลเก่า พ่อเล่าว่า... มิถิลามหานครบวรศรี
วิริยะพระชนกปกธานี แห่งนี้มีมะม่วงทิพย์อันโอชา

๔.พระเสวยเชยผลจากต้นนั้น สารพันรสเลิศคุณละมุนค่า
แลเมื่อครั้นถึงคราวชาวประชา ยื้อแย่งคว้าด้วยตัณหาราคะตน

๕.ฉุดดึงทึ้งกระชากริดรานร่วง ต้นมะม่วงแดดวงดับไปกับผล
ทอดอาลัย...ให้เทวษอาเพศคน ธ ทรงค้น “วิทยา” ค่าค้ำชู

๖.จอมกษัตริย์ขัดเกลาบรรเทาช่วย เอื้ออำนวยแก่ทวยราษฎร์ประกาศสู้
ส่องประทีปสว่างงามด้วย “ความรู้” เราจะอยู่ดูดายได้อย่างไรกัน

๗.ราก-ต้นป่น ชนก่อ...เราขอหยุด จะยื้อยุดสุดแรงไม่แบ่งกั้น
ร้อยสายใจให้แน่นเหนียวเกลียวสัมพันธ์ ร่วมสร้างสรรค์ฝันใหม่ให้เป็นจริง

๘.ทำอย่างไร ? ไขปัญหา-ปัญญาตอบ “รับผิดชอบ” ใน “หน้าที่” ในทุกสิ่ง
ใช้ “วิชชา” พาก้าวไกลไม่ประวิง ไม่ทอดทิ้ง “รากความคิด” “สิทธิ์” “เสรี”

๙. “คุณธรรม” ค้ำต้นให้ทนต้าน “สามไม้คาน” หาญฮึดสู้ชูศักดิ์ศรี
“หนึ่งไม้ชาติ” “ศาสน์ไม้สอง” คล้องความดี “สามภูมี” พระทรงธรรมค้ำจุนใจ

๑๐.ความเก่าก่อนย้อนให้เห็นวิสัยทัศน์ ชี้ให้ชัดปัญหาเก่าคล้ายเล่าใหม่
ไม้ต้นนี้จะผลิดอกงอกช่อใบ แผ่พุ่มชัฏวิวัฒน์ไทยให้ยั่งยืน


ข่าว ผานิต ฆาตนาค
ภาพ เพจเครือข่ายศิลปวัฒนธรรม สำนักวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยขอนแก่น